ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับที่นอน

เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ ด้วยการปรับสิ่งแวดล้อมในห้องคุณ

     สภาพแวดล้อม มีผลต่อคุณภาพการนอนหลับขนาดไหน วันนี้เราจะมาไขคำตอบให้คุณได้รู้กัน แต่อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าการนอนที่มีคุณภาพวัดได้จากอะไรบ้าง หากคุณตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลัง ไม่หงุดหงิดง่าย นั่นแหละค่ะการนอนที่มีประสิทธิภาพที่ทั้งดีพอสำหรับหลักการทางวิทยาศาสตร์และพอดีกับตัวเราเอง

ข้อ 1. สภาพแวดล้อมสิ่งแรกที่เราไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือเตียงนอน เตียงไม่ควรสูงหรือเตี้ยเกินไป ควรอยู่ในลักษณะที่เมื่อถ้าเรานั่งบนเตียงแล้วสะโพกกับเข่าจะต้องขนานกันเป็นเส้นตรง เพราะถ้าสูงไปก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังอาจรู้สึกไม่สบายตัวเวลานั่งเล่นข้างเตียง แต่หากเตียงเตี้ยไป ก็จะทำให้เวลาเรานั่งหรือลุกขึ้นแต่ละครั้งต้องใช้แรงมากกว่าเดิม หากผู้ใช้เป็นคนสูงวัยหรือหญิงตั้งครรภ์ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้

ข้อ 2. ต่อมาที่สำคัญไม่แพ้เตียงนอนก็คือ ฟูก ที่มีหลายแบบหลากวัสดุให้เลือกสรร แต่หากถามว่าแบบที่ผลิตจากวัสดุอะไรดีที่สุด ก็คงต้องตอบตามตรงว่าไม่มีของอะไรที่ดีที่สุด มีแต่อะไรที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดต่างหาก เพราะฟูกสปริงอาจจะดี แต่หากเรานอนคนเดียว ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้นัก เพราะการกระจายตัวของน้ำหนักบนฟูกไม่ได้เยอะ ส่วนความแข็งหรือนิ่มเกินไปก็ไม่ดีอีกเช่นกัน เพราะหากแข็ง แปลว่าฟูกไม่รองรับการกระจายตัวของน้ำหนัก ทำให้ร่างกายของเราเป็นตัวรับน้ำหนักแทน จนเกิดอาการปวดตัวปวดหลังตามมา ส่วนฟูกที่นุ่มเกินไป เวลาเราลงนอนก็จะบุ๋ม ทำให้สรีระเราเป็นตัวซี เกิดอาการนอนผิดท่า ปวดหลังไม่ต่างกัน อีกสิ่งที่หลายคนอาจละเลยก็คือควรเปลี่ยนฟูกที่ใช้มาเป็นระยะเวลานาน โดยสังเกตจากหลายปัจจัยทั้งกลิ่น ไรฝุ่น การชำรุด การกระจายตัวของน้ำหนักของฟูกที่ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นต้น

ข้อ 3. สำหรับคนที่มีภาวะปวดหลังให้ลองนำหมอนรองใต้เข่ามาใช้ แล้วคุณจะพบว่าสรีระร่างกายตรงหลังของคุณเปลี่ยนไป มีความตรงแนบไปกับพื้นฟูกมากขึ้น ไม่เป็นรูโบ๋โพรงเช่นเดิม ส่วนคนที่ปวดคอ เหตุผลหลักของปัญหาคือหมอนค่ะ เวลาดูหมอนให้ดูว่าเวลาเรานอนลงไปแล้ว หู คอและไหล่ ตรงขนานกันอยู่หรือไม่ และส่วนสุดท้ายหมอนข้างที่ขนาดพอดี เวลาก่ายจะได้ง่าย ก่ายได้นาน เอวสะโพกก็ไม่บิด

ข้อ 4. ผ้าห่ม ได้ยินมาว่าหลายคนที่มีปัญหานอนไม่หลับมักใช้ผ้าห่มชนิดพิเศษ ที่มีความหนักอยู่ในตัว ผ้าห่มในลักษณะนี้จะกดแนบเนื้อเรา ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนโดนกอด ส่วนอุณหภูมิที่ดีสำหรับการนอนหลับจะอยู่ที่ 18-25 องศาค่ะ

ข้อ 5. แน่นอนว่ากลิ่นสะอาดเป็นกลิ่นที่ดีและพึ่งประสงค์ แต่สำหรับการนอนหลับที่ดียังมีอีก 3 กลิ่นอโรมาที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้แก่ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นเปเปอร์มิ้นท์และกลิ่นยูคาลิปตัส

ข้อ 6. ห้องนอนควรเป็นสีโทนเย็น เพราะแม้ว่าเวลาเราหลับตาไปแล้วจะไม่เห็น แต่ช่วงเวลาที่บิ้วอารมณ์ก่อนนอนให้รู้สึกง่วงมากที่สุดนั้นจำเป็น เห็นแล้วต้องรู้สึกอยากกระโจนขึ้นไปนอน

     นอกจากนี้เสียงรบกวนจากการกรนของคนข้าง ๆ ยังถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่แก้ได้ในเบื้องต้นคือการนอนท่าตะแคง แต่จะช่วยได้เฉพาะคนที่มีปัญหาการหายใจติดขัดเล็กน้อยเท่านั้น เพราะปัจจัยการกรนนั้นมีด้วยกันหลายสาเหตุฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญการค่ะ

     เป็นยังไงกันบ้างคะ หากท่านใดที่ทำตามทุกข้อที่กล่าวมานี้แล้ว แต่ยังคงมีอาการนอนไม่หลับ ปวดเมื่อยตัว หลังตื่นนอนยังรู้สึกไม่สดชื่นแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองเข้าพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด ซึ่งจะให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง เป็นประโยชน์และใช้ได้จริงมากขึ้นค่ะ

ใส่ความเห็น