การนอนหลับพักผ่อนและการเลือกที่นอนทั้ง 2 อย่างนี้ล้วนสัมพันธ์กันเพื่อการนอนที่เต็มอิ่มตื่นมาสดชื่นในยามเช้าไม่ปวดเมื่อยและพร้อมเริ่มวันใหม่อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นแบบนั้นได้เตียงนอนเองก็มีส่วนสำคัญ
คุณต้องดูให้ดีว่าที่นอนแบบไหนดีต่อสุขภาพไม่ทำให้ปวดเมื่อยและเข้ากับพฤติกรรมการนอนหลับของคุณ Blog นี้เราจะอยากมาแชร์ความรู้ และเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการนอน และวิธีเลือกที่นอนให้เหมาะกับคุณ
นอนแบบไหนถือว่ามีคุณภาพ ?
โดยคร่าว ๆ แล้วนั้น คนเราควรนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน แต่แท้จริงแล้วจะนอนกี่ชั่วโมงไม่สำคัญ (ซึ่งก็ไม่ควรต่ำกว่า 6 ชั่วโมง) ขอเพียงแค่ตื่นขึ้นมาเป็นเวลาและสดชื่นก็พอแล้ว
ประเภทของที่นอน
ก่อนจะไปถึงการเลือกที่นอน เราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่าที่นอนนั้นมีกี่ประเภท โดยเราจะพูดถึงแต่ชนิดที่ได้รับความนิยม
- การเลือกที่นอน ฟองน้ำ : มีข้อดีในเรื่องความนุ่ม หากแต่อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น และการคืนตัวทำได้ไม่ดีเท่าที่นอนสปริง และที่นอนยางพารา
- การเลือกที่นอน สปริง : มีข้อดีตรงความยืดหยุ่นที่สูง น้ำหนักเบา นุ่ม เด้ง รองรับสรีระได้เป็นอย่างดี แต่อายุการใช้งานอาจไม่ยาวนานเท่าที่นอนยางพารา
- การเลือกที่นอน ยางพารา : มีจุดแข็งตรงที่ยืดหยุ่นสูง กระจายแรงกดทับได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 20 ปี รับน้ำหนักได้มาก ไม่กักเก็บฝุ่นและความชื้น จึงไม่ต้องนำไปตากแดด
การเลือกที่นอนที่ดีดูยังไง?
- ขนาดของห้อง : เพื่อไม่ให้ตัวห้องดูอึดอัดเกินไป จึงควรใช้วิธีเลือกฟูกที่นอนโดยอ้างอิงจากขนาดของห้อง รวมถึงเนื้อที่ใช้สอยที่จำเป็นโดยรวม
- ดูจากการใช้งาน : ปกติแล้วนอนกันกี่คน ถ้าคนเดียว เอาแค่ขนาด 3 ฟุตหรือ 3.5 ฟุต (ในกรณีที่ตัวใหญ่) แต่ถ้ามี 2 คนขึ้นไป ควรเลือกขนาด 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต (ในกรณีที่นอนกัน 2-3 คน)
- พฤติกรรมการนอน : บางคนนอนดิ้น บางคนชอบตื่นกลางดึก และบางคนก็มักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหลัง ดังนั้นแล้วเพื่อให้เช้าวันใหม่เริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ที่นอนสุขภาพที่เข้ากันได้ดีกับพฤติกรรมและปัญหาที่พบเจอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นในเรื่องของการเลือกที่นอน และการนอน ด้านล่างเรายังมีบทความอื่น ๆ อีกมากมายจาก Sleep Happy มาแชร์กัน
