ไลฟ์สไตล์

5 วิธี ปรับฮวงจุ้ยห้องนอนอย่างไรให้ชีวิตปัง

ฮวงจุ้ย

แนวคิดเชิงปรัชญาที่ว่าด้วยหยินและหยางถูกผสานเข้ากับศาสตร์ความเชื่อหลากแขนง แทรกซึมเข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา อีกทั้งหัวใจของศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้นยังหมายถึงความสมดุลของสรรพสิ่ง จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม ณ ปัจจุบัน ฮวงจุ้ยจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งรากฐานความเชื่อที่คนไทยให้ความสำคัญ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เพื่อให้หลายคนนำหลักการฮวงจุ้ยไปใช้ได้อย่างมีประโยชน์และบรรลุผลมากขึ้น บทความนี้จึงอยากขอเสนอ 5 วิธีปรับฮวงจุ้ยห้องนอน มาให้ทุกคนได้นำไปลองทำตามกันดูค่ะ

1. ตำแหน่งนอนห้อง

ห้องนอนเจ้าของบ้านควรอยู่ชั้นบนสุด แต่หากตัวบ้านมีมากกว่า 2 ชั้น เพื่อความสะดวกสบายห้องนอนของเจ้าของบ้านจะอยู่ชั้น 2 เป็นอย่างต่ำก็ได้ แต่ไม่ควรตั้งอยู่ที่ชั้นล่างสุดเพราะอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านคนอื่น ๆ กุมอำนาจมากกว่า และหากเป็นบ้านชั้นเดียว ห้องนอนของเจ้าของบ้านก็ไม่ควรตั้งอยู่หน้าบ้านโดยเฉพาะบริเวณโรงจอดรถ เพราะตามหลักจิตวิทยาการตั้งห้องนอนไว้ที่หน้าบ้านอาจไม่ปลอดภัยและการตั้งห้องนอนไว้บริเวณทางเข้าออกอาจรบกวนการพักผ่อนได้

2. ตำแหน่งและทิศของเตียงนอน

เตียงนอนควรตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือจะดี เพราะมีแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า ลมไหลผ่านเป็นระยะ แต่ระวังอย่าหันไปทางทิศใต้หรือตะวันตก เพราะจะมีแดดสาดเข้ามาตลอดวัน รบกวนการนอนหลับอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับผู้ที่ทำงานกะดึกและต้องการการพักผ่อนในตอนเช้า ส่วนตำแหน่งของเตียงภายในห้องนั้นก็สำคัญเช่นกัน การวางเตียงโดยหันหัวไปทางหน้าบ้าน การวางเตียงที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นประตูทางเข้าออกห้องได้อย่างสะดวกหรือแม้กระทั่งการวางเตียงโดยให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชิดกับผนังนั้นไม่ใช่เรื่องดี ในทางจิตวิทยาแล้วจะทำให้คนรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัย ส่วนในทางฮวงจุ้ยก็ถือเป็นการดึงดูดพลังงานลบ ทำให้สุขภาพย่ำแย่และว้าวุ่นใจ

3. เตียงนอนดี ชีวิตดี

ในหลักฮวงจุ้ยการมีเตียงนอนจะช่วยส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของเจ้าของ ฉะนั้นหากใครที่เชื่อในศาสตร์นี้ก็อย่าเผลอไปจัดห้องนอนให้มีแต่ฟูกเพียว ๆ เชียวค่ะ ส่วนวัสดุที่ใช้ควรเป็นไม้หรือไม่ก็ผ้าบุนวม ขนาดพอดี ข้อควรระวังที่สำคัญก็คือหัวเตียงไม่ควรมีช่องว่างที่เยอะเกินไปและวัสดุที่ใช้ไม่ควรเป็นโลหะ เพราะช่องว่างที่เยอะจะส่งผลต่อพลังของเราที่ถูกกระจายตัวออกจากกันและโลหะให้พลังงานที่เย็นไม่เหมาะกับการเป็นเตียงนอน ส่วนฟูกก็ควรเลือกใช้ที่ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง หลับไม่สนิทสบายตัว ก่อให้เกิดภาวะอักเสบและเจ็บป่วยแก่ร่างกาย

4. สีผนังห้องนอน

สีห้องนอนถือเป็นหนึ่งในเรื่องหลักที่สำคัญที่สุด การเลือกนี้อาจกำหนดชีวิตคุณในช่วงนั้น ๆ ให้ดีหรือร้ายไปเลยก็ได้ ดังนั้นโปรดให้เวลาและใส่ใจซักนิด อย่างแรกที่ควรรู้คือเราไม่ควรเลือกสีห้องนอนให้ออกเป็นโทนมืด เพราะอารมณ์อาจจมดิ่งมากเกินไป อีกทั้งยังไม่มีชีวิตชีวา ไม่เพิ่มพลังให้แก่ชีวิต สิ่งที่ควรรู้อย่างที่สองก็คือการเลือกสีที่สว่างเกินไป อาทิ สีขาว ก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าสีขาวล้วนจะเก็บพลังชีวิตไว้ไม่อยู่ แต่ในทางวิทยาศาสตร์สีขาวล้วนอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะนอนหลับไม่สนิท ฉะนั้นโทนสีที่แนะนำจึงได้แก่  สีเขียวที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ สีฟ้าที่หมายถึงความสงบเยือกเย็น สีม่วงอ่อนหมายถึงความร่ำรวย สีชมพูหมายถึงความอ่อนโยน สีเบจและครีมที่หมายถึงความอบอุ่นค่ะ โดยทุกสีที่กล่าวมานั้นล้วนให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เย็นสบายตาทั้งสิ้น

5. การตกแต่งและการจัดห้องนอนที่ไม่ควรทำ

การตกแต่งห้องนอนมีผลต่อชีวิตประจำวันของเรามาก ฉะนั้นการพินิจพิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงไม่ควรมองข้าม ตามหลักแห่งศาสตร์ฮวงจุ้ยแนะนำว่าไม่ควรนำตู้ปลามาไว้ภายในห้องนอน เพราะเชื่อว่าการทำเช่นนี้นอกจากจะทำให้มีความชื้นภายในห้องนอนมากแล้วยังส่งผลให้พลังหยางในตัวเราอ่อนแอลง อีกหนึ่งคำแนะนำที่เป็นประโยชน์คือเราควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้มีความโค้งมน เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่มีขอบเหลี่ยมเยอะไม่เพียงแต่อันตราย แต่ตามหลักฮวงจุ้ยยังส่งผลให้คนในบ้านทะเลาะ ใช้คำพูดรุนแรง เสียดแทงกันอีกด้วย 

การทำตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากทำตามไม่ได้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะยังมีวิธีแก้เสมอค่ะ ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอาจไม่ใช่แต่เพียงหลักฮวงจุ้ยที่ไปได้ยินมาเท่านั้น เพราะการปรับใช้ฮวงจุ้ยกับแต่ละบุคคล แต่ละสถานที่มักแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือความเป็นระเบียบเรียบร้อยและการได้จัดแต่งตามสไตล์ที่เราชอบจะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ไม่เป็นกังวลใจ ทำให้เราดำรงชีวิตได้อย่างที่ต้องการและไร้กังวลจริง ๆ ค่ะ

ใส่ความเห็น