วิธีเลือก หมอนเพื่อสุขภาพ เพื่อให้นอนหลับสบาย สำหรับคนหลับยาก
หลายคนที่นอนหลับแล้วตื่นนอนขึ้นมา มีอาการปวดคอหรือรู้สึกเคียง ๆ บริเวณบ่าไหล่ ยาวไปจนถึงท้ายทอยและศีรษะ สาเหตุหนึ่งอาจจะเกิดจากการเลือกใช้หมอนที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่เหมาะกับลักษณะศีรษะกับคอของตนเอง ทำให้หลังจากตื่นแล้วหงุดหงิดและไม่สบายตัว สำหรับคนที่นอนหลับยากหรือมีอาการดังกล่าว ควรเลือกใช้ หมอนเพื่อสุขภาพ เพื่อตัวเองได้นอนหลับอย่างสบายเต็มตื่นมากขึ้น เพราะการหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้นั่นเอง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำหมอนที่เหมาะกับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ให้คุณได้ไปเลือกซื้อหรือหามาเป็นเครื่องนอนส่งเสริมสุขภาพตนเองและคนในครอบครัว
Pic Credit: bangkokhealthy.com
การเลือกหมอนที่ส่งเสริมสุขภาพควรดูจากอะไร
เนื่องจากว่าเครื่องนอนในปัจจุบันมีการพัฒนามาหลายรูปแบบ ตามราคาและวัสดุที่ใช้ผลิต ตั้งแต่ที่นอน หมอนหนุน หมอนข้าง ผ้าห่ม ทุกสิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์เสริมการนอนที่จะส่งผลต่อสุขภาพทั้งสิ้น โดยการเลือก หมอนเพื่อสุขภาพ จะต้องดูจากลักษณะทางกายภาพของตนเองก่อน ว่าส่วนของลำคอและศีรษะของเรานั้นเป็นรูปแบบใด เหมาะสมกับหมอนอะไร และในทุกครั้งที่ไปเลือกซื้อหมอนจะต้องคำนึงถึงประเภทการนำไปใช้งานตามคนใช้นั้น ๆ เช่น ถ้าหากซื้อไปให้คนสูงอายุก็ควรเลือกหมอนที่ไม่สูงมาก มีความนิ่มเป็นพิเศษ อย่างหมอนยางพาราที่กำลังเป็นที่นิยมต่อการสลีพอย่างแฮปปี้ หรือถ้าเป็นเด็กก็ควรเลือกหมอนที่มีขนาดพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นต้น
หมอนแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
การเลือกหมอนมาใช้งาน บางคนอาจจะมองข้ามว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หมอนคือสิ่งที่ดูแลเราให้นอนหลับอย่างสบายในทุกค่ำคืน หากเลือกใช้งานหมอนที่ไม่เหมาะกับตัวเอง การตื่นนอนมาก็จะทราบได้ถึงอาการปวดต้นคอ และต้องเสียเวลาในการรักษา บางคนอาจจะคอเคล็ดประกอบกับการนอนผิดท่า ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เราจึงอยากมาแนะนำ หมอนเพื่อสุขภาพ แต่ละประเภทให้คุณได้ไปเลือกใช้งาน ดังนี้
- หมอนยางพารา เป็นหมอนที่ทำมาจากยางพารา หมอนเพื่อสุขภาพ ยางพารา ยืดหยุ่น เข้าทรงตามรูปศีรษะ ไม่ดูดฝุ่น ระบายอากาศดี
- หมอนโฟมยูรีเทน มีความยืดหยุ่นและรับแรงกดทับได้ดี
- หมอนขนเป็ด ทำมาจากจากขนของเป็ดหรือห่าน มีความนุ่มและอบอุ่น