เลือกที่นอนผิดชีวิตเปลี่ยน เป็นคำพูดที่ไม่ได้กล่าวเกินจริง เพราะเมื่อนอนบนที่นอนแข็งหรือนิ่มมากเกินไป จะทำให้นอนหลับไม่สนิทเพราะรู้สึกไม่สบายตัว และอาจพบปัญหาปวดหลังเมื่อยตัวตามมาในภายหลัง ทำให้ในช่วงเวลาทุกครั้งที่ตื่นนอนอาจกลายเป็นฝันร้ายสำหรับใครหลาย ๆ คน แล้วอย่างนี้ควรจะเปลี่ยนที่นอนเป็นแบบไหน ระหว่างที่นอนแข็งหรือนุ่มดี? ในที่นี้เราจะมาแนะนำการเลือกที่นอนให้เหมาะกับสรีระ ที่ช่วยเปลี่ยนฝันร้ายในยามตื่นนอนให้กลายเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกสดชื่น

สารบัญบทความ

• ที่นอนแข็งกับที่นอนนุ่มต่างกันยังไง
• ที่นอนแข็งนอนแล้วปวดหลังจริงไหม
• ที่นอนแข็งเหมาะกับใครบ้าง
• วิธีป้องกันอาการปวดหลัง ให้ร่างกายสดชื่นทุกครั้งหลังตื่นนอน
• วิธีการเลือกที่นอนไม่ให้ปวดหลัง
• ที่นอนแข็ง เปลี่ยนที่นอนให้นอนหลับฝันดีกับ SleepHappy

ที่นอนแข็งกับที่นอนนุ่มต่างกันยังไง

ที่นอนแข็งกับที่นอนนุ่มให้สัมผัสการนอนต่างกัน บางคนนอนเตียงแข็งแล้วปวดหลัง บางคนนอนเตียงนิ่มแล้วรู้สึกไม่สบายตัว ดังนั้นก่อนเปลี่ยนที่นอนควรดูว่าตัวเองชอบสัมผัสที่นอนแบบนิ่มหรือสัมผัสที่นอนแบบแข็ง เพื่อที่จะได้เลือกซื้อได้ถูกต้องเหมาะสม โดยที่นอนแข็งกับที่นอนนุ่มมอบสัมผัสต่างกัน ดังนี้

• ที่นอนแข็ง : ที่นอนแข็ง เป็นที่นอนที่ถูกออกแบบให้รองรับสรีระและกระจายน้ำหนักร่างกายของผู้นอนได้ดี ทำให้เวลานอนจะรู้สึกมั่นคง ร่างกายไม่จมในเนื้อเตียง สามารถนอนหลับสนิทตลอดคืนได้โดยไม่มีอาการปวดเมื่อยตัวและหลังตามมา
• ที่นอนนุ่ม : ที่นอนนุ่ม ๆ เป็นที่นอนที่ถูกออกแบบให้มีสัมผัสนุ่มและสบายผิวเมื่อล้มตัวนอนบนที่นอน เมื่อนอนลงบนที่นอนนุ่มแล้วก็จะรู้สึกว่าร่างกายจะจมเข้าไปในเนื้อเตียงเล็กน้อย ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและสามารถเข้าสู่ช่วงเวลานอนหลับได้อย่างรวดเร็ว

ที่นอนแข็งนอนแล้วปวดหลังจริงไหม

บางคนเชื่อว่าการนอนบนที่นอนแข็ง ๆ จะช่วยเรื่องอาการปวดหลังได้ แต่ที่จริงแล้วการนอนบนที่นอนแข็งอาจทำให้ปวดหลังมากกว่าเดิมถ้าที่นอนแข็งเกินไป เพราะเวลานอนหลับร่างกายจะผ่อนแรงลงบนเตียง และบางส่วนของร่างกายรับแรงกดทับมากกว่าจุดอื่น ๆ ทำให้ส่งผลต่อกระดูกสันหลัง และเกิดอาการปวดหลังตามมา

ที่นอนแข็งเหมาะกับใครบ้าง

หลายคนอาจไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับที่นอนแข็งหรือที่นอนนุ่ม ดังนั้นมาดูกันว่าที่นอนแข็งเหมาะกับใครบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกซื้อที่นอนที่เหมาะสมกับตัวเอง ดังนี้

• ผู้ที่ชอบนอนหงายหรือนอนคว่ำ เพราะช่วยรองรับกระดูกสันหลังให้ตรงได้ดีกว่าที่นอนนุ่ม
• ผู้สูงอายุ เพราะที่นอนจะรองรับสรีระร่างกายโดยเฉพาะหลังได้ดี จึงลดการเกิดอาการปวดหลังได้
• ผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะที่นอนที่มีความแข็งระดับพอดี จะช่วยปรับสรีระร่างกายให้เหมาะสม จึงช่วยบรรเทาอาการปวดได้

วิธีป้องกันอาการปวดหลัง ให้ร่างกายสดชื่นทุกครั้งหลังตื่นนอน

ใคร ๆ ก็คงอยากจะรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน แต่ถ้าตื่นนอนแล้วมีอาการปวดหลัง อาจเป็นเพราะสรีระร่างกายในขณะที่นอนหลับมีลักษณะไม่เหมาะสม ซึ่งสามารถเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากเครื่องนอนที่ใช้ หรืออาจเกิดจากพฤติกรรมของตัวเอง ในที่นี้ก็จะมาแนะนำวิธีช่วยลดอาการปวดหลังให้รู้สึกสบายตัวหลังตื่นนอน ดังนี้

1. ปรับการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น

เมื่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายรวมถึงการไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายส่วนต่าง ๆ ทั้งกล้ามเนื้อ เส้นประสาทก็จะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ทำให้อาการปวดเมื่อยหลังที่เป็นอยู่บรรเทาลงได้ โดยสามารถปรับการไหลเวียนโลหิตได้หลายวิธี เช่น การอาบน้ำอุ่น ห่มผ้าหนา ๆ หรือใส่ถุงเท้าไม่ให้ร่างกายเย็นเกินไประหว่างนอนหลับ เป็นต้น

2. เลือกความสูงของหมอนให้เหมาะสม

ถึงแม้ว่าที่นอนแข็งในระดับเหมาะสมจะช่วยลดอาการปวดหลังได้จริง แต่ความสูงของหมอนก็ส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยด้วยเหมือนกัน เพราะการนอนหมอนสูงหรือต่ำเกินไปจะทำให้กระดูกสันหลังโค้งและกระดูกคองอได้ ดังนั้นจึงควรเลือกหมอนนอนที่มีความสูงระดับพอดี เหมาะกับสรีระร่างกาย เพื่อให้กระดูกสันหลังมีลักษณะตรง และอาการปวดหลังก็จะบรรเทาลง

3. ปรับท่านอนให้ถูกต้อง

การปรับท่านอนให้ถูกต้องช่วยลดอาการปวดบริเวณหลังได้ แต่ถ้าเป็นท่านอนที่ไม่ถนัดก็จะทำให้นอนไม่สบายตัวได้เหมือนกัน ในที่นี้ก็จะมาแนะนำวิธีปรับท่านอนแต่ละรูปแบบให้เลือกตามที่ถนัด ดังนี้

• ท่านอนหงาย ให้นอนหงายหน้าขึ้น โดยที่มีหมอนหนุนศีรษะในระดับที่เหมาะสม แล้วนำหมอนข้างขนาดเล็กมาวางรองเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยลดการแอ่นตัวของกระดูกสันหลัง ส่งผลให้อาการปวดหลังที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้
• ท่านอนตะแคง ให้เลือกนอนตะแคงข้างที่ถนัด ศีรษะหนุนหมอนระดับที่พอดี นอนงอเข่าทั้งสองข้างเล็กน้อยแล้วนำหมอนข้างสอดเข้าไประหว่างขาที่งอทั้งสองข้าง เพื่อจัดกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวตรง อาการปวดตึงหลังก็จะบรรเทาลงได้
• ท่านอนคว่ำ ที่จริงแล้วท่านอนคว่ำเป็นท่านอนที่ควรเลี่ยงเพราะทำให้กระดูกสันหลังแอ่น และยังส่งผลต่อการหายใจระหว่างนอนหลับด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องนอนคว่ำจริง ๆ ให้นำหมอนมารองช่วงคอ หน้าอกบน และบริเวณสะโพก แล้วหันหน้าไปทางด้านที่ถนัดเพื่อลดอาการปวดหลัง

4. เลือกที่นอนที่เหมาะกับตนเอง

ที่นอนมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ และยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังได้ด้วย แต่ที่นอนแบบไหนถึงดีนั้นขึ้นอยู่กับสัมผัสการนอนของแต่ละคน บางคนนอนที่นอนแข็งแล้วรู้สึกพอดีตัว ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป แต่บางคนนอนที่นอนแข็งแล้วปวดหลัง ก็อาจต้องมองหาที่นอนที่นิ่มขึ้นจนกว่าจะเจอที่นอนที่เหมาะสม

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะเจอที่นอนที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว แต่ที่นอนก็มีอายุการใช้งานอยู่ ถ้านอนแล้วรู้สึกที่นอนยุบตัวผิดปกติ ไม่คืนทรง ให้เปลี่ยนที่นอนใหม่เพื่อลดโอกาสเกิดอาการปวดบริเวณหลัง

วิธีการเลือกที่นอนไม่ให้ปวดหลัง

การเลือกเตียงนอนที่เหมาะกับตัวเอง เข้ากับสรีระร่างกายจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง และยังช่วยลดโอกาสเกิดอาการปวดหลังได้ด้วยเช่นกัน มาดูกันว่ามีวิธีเลือกที่นอนอย่างไรบ้าง ไม่ให้นอนแล้วปวดหลังเมื่อยตัว ดังนี้

• วัสดุ : วัสดุที่ใช้ผลิตเตียงนอนมีคุณสมบัติต่างกัน ส่งผลให้สัมผัสเวลานอนลงบนเตียงต่างกัน เช่น
• • • ที่นอนสปริง เป็นที่นอนมีสปริงแบบต่าง ๆ เสริมด้านในที่นอน เช่น ที่นอนพ็อกเก็ตสปริงจะมีตัวสปริงแพ็คแยกจากกัน เด่นเรื่องรับน้ำหนักตามจุดได้ดี พลิกตัวง่าย และลดแรงสั่นสะเทือนไปถึงคนที่นอนข้าง ๆ หรือที่นอนบอนเนลสปริงที่เชื่อมขดลวดให้เป็นแผ่น ทำให้ร่างกายไม่จมเนื้อเตียง
    • ที่นอนยางพารา เป็นที่นอนผลิตจากยางพาราแท้หรือสังเคราะห์ มีความทนทานสูง ไม่ยุบตัวง่าย แต่ไม่แข็งจนเกินไป

• ขนาด : ขนาดที่นอนมีผลต่ออาการปวดหลังเล็กน้อย ถ้าเลือกเตียงนอนขนาดเล็กเกินไป เช่น ที่นอน 3.5 ฟุต ก็จะทำให้พลิกตัวไม่สะดวกจนเผลอนอนท่าเดิม ๆ ตลอด และมีอาการปวดเมื่อยตัวเพิ่มเมื่อตื่นนอน และอาจเผลอนอนตกเตียงจนได้รับบาดเจ็บได้
  
  แล้วเตียงนอนควรมีขนาดเท่าไหร่? สำหรับผู้ที่นอนคนเดียว หรือเป็นคนรูปร่างเล็ก แนะนำที่นอน 3.5 ฟุตเพราะเป็นขนาดที่สามารถพลิกตัวได้สบาย ๆ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีรูปร่างใหญ่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นที่นอน 5 ฟุตเพื่อเพิ่มพื้นที่การขยับตัวขณะนอนได้มากขึ้น
  
  หรือถ้าต้องการพื้นที่ในการนอนกว้าง ๆ มีที่เหลือสำหรับนอน 2 คนหรือวางชุดเครื่องนอนต่าง ๆ ได้ แนะนำเป็นที่นอน 6 ฟุตเพื่อที่จะได้พลิกตัวนอนสบาย ๆ ได้อย่างอิสระทั้งสองคน

• ระดับความแข็ง : ความแข็งของที่นอนส่งผลต่ออาการปวดหลัง ถ้าที่นอนแข็งมาก แรงกดทับจากน้ำหนักร่างกายจะไม่กระจายตัว ทำให้ร่างกายบางส่วนรู้สึกปวด แต่ถ้าที่นอนนิ่มมาก ตัวก็จะจมลงเนื้อเตียง ทำให้ขยับตัวลำบาก
  
  ดังนั้นควรเลือกที่นอนแข็งระดับพอดี สามารถรองรับน้ำหนักตัวเมื่อทิ้งตัวนอนได้ และที่นอนควรสามารถปรับทรงตามส่วนโค้งและส่วนเว้าของร่างกาย เพื่อให้ท่านอนอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องได้

ที่นอนแข็ง เปลี่ยนที่นอนให้นอนหลับฝันดีกับ SleepHappy

ที่นอนดีช่วยให้นอนหลับสบาย ตื่นขึ้นมาไม่ปวดเมื่อยตามตัว ซึ่งที่นอนแข็งเป็นที่นอนที่ไม่ยุบตัวลงตามแรงกดทับมาก จึงเป็นเตียงที่น่าแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง แต่ที่นอนไม่ควรมีเนื้อแข็งมากเกินไปเพราะจะทำให้อาการปวดหลังแย่ลงกว่าเดิม

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่นอนแข็งที่นอนแล้วไม่ปวดหลัง ที่นอนยางพาราเป็นที่นอนที่ไม่แข็งมาก และช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ ซึ่งที่นอน SleepHappy รุ่น Element CoolRest เป็นที่นอนยางพาราแบบแข็งกำลังพอดี มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยรองรับสรีระร่างกายขณะนอนได้อย่างเหมาะสม มอบความรู้สึกเย็นสบายด้วยเทคนิคระบายอากาศ ให้สามารถนอนหลับสบายตลอดทุกช่วงเวลา